จังหวัดเพชรบุรี โดยเยาวชนเครือข่ายเพชรบุรี ดีจัง ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี จัดมหกรรมพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีชีวิต เพชรบุรี ดีจัง มาส่งต่อกัน โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองเพชรบุรี สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน(สสย.) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมสมทบสนับสนุนงบประมาณ หน่วยงานราชการ องค์กร บริษัท เอกชน ชุมชนพร้อมใจร่วมจัดกิจกรรม ด้านเอกชนเจ้าของที่ดิน 2 แปลงให้ใช้พื้นที่ส่วนบุคคลเป็นลานกิจกรรม
สืบเนื่องจากกลุ่มเด็กและเยาวชนเครือข่ายเพชรบุรี ดีจัง ได้ริเริ่มจัดงานมหกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ เพชรบุรี ดีจัง นำเสนอสื่อ ศิลปะ และวัฒนธรรมของชุมชนต่าง ๆ ในจังหวัดเพชรบุรีที่เกิดจากการเรียนรู้ของเด็กและเยาวชน จากโครงการพื้นที่สร้างสรรค์ เพชรบุรี ดีจัง ดำเนินการอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี ๒๕๕๕ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากประชาชนทั้งในท้องถิ่นและต่างจังหวัด ตลอดจนยังเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนทั่วไปอีกด้วย โดยที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ หรือ สสส. แต่ปีนี้ทาง สสส. ลดงบประมาณลง ด้วยเหตุนี้ นางฉัตรพร ราษฎร์ดุษดี ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี จึงได้มอบนโยบายให้สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการจัดมหกรรมครั้งนี้ และขอรับการสนับสนุนเพิ่มเติมจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรีอีกจำนวนหนึ่งด้วย
ด้านกิจกรรมในปีนี้ นางสาวสุนิสา ประทุมเทือง แกนนำเยาวชนเครือข่ายเพชรบุรีดีจัง ผู้ประสานงานมหกรรมครั้งนี้ ได้กล่าวว่า “จากการที่เครือข่ายได้ร่วมกันขับเคลื่อนพื้นที่สร้างสรรค์กันมาถึงปีนี้ก็เป็นปีที่ 6 แล้ว ทำให้หลายพื้นที่มีการเติบโตขึ้น จากพื้นที่สร้างสรรค์เล็ก ๆ ในชุมชน กลายเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ทั้งชุมชน เกิดความร่วมมือร่วมใจกันมากขึ้น มีพื้นที่เรียนรู้ใหม่ ๆ เกิดขึ้นมากมาย ปีนี้เราก็ใช้ชื่อมหกรรมว่า มหกรรมพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีชีวิต เพชรบุรี ดีจัง มาส่งต่อกัน เพื่อให้ทุกคนในเพชรบุรี ได้มาร่วมมือกัน ดูแล รักษา พื้นที่สร้างสรรค์ พื้นที่เรียนรู้ในชุมชนไว้ ช่วยกันเล่าช่วยกันบอกต่อให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ขึ้นในทุก ๆ พื้นที่ทุกชุมชน และก็อยากให้ทางจังหวัดเพชรบุรี ได้จัดงบประมาณสนับสนุนกิจกรรมพื้นที่สร้างสรรค์ที่คนเมืองเพชรได้ร่วมกันเริ่มต้นนี้ไว้ ให้สามารถพัฒนาให้ก้าวหน้าต่อไปเรื่อย ๆ โดยงานมหกรรมครั้งนี้ จะมีขึ้นในวันเสาร์ – อาทิตย์ที่ 18 – 19 มีนาคม 2560 นี้ ในพื้นทีชุมชนใจกลางเมืองเพชรบุรี มีกิจกรรมทั้งภาคกลางวันและช่วงค่ำก็จะเริ่มประมาณ 5 โมงเย็นเป็นต้นไป”
“ส่วนด้านผู้ร่วมจัดกิจกรรมในงานมหกรรมปีนี้ กลุ่มเยาวชนเครือข่ายเพชรบุรีดีจังยังคงเป็นแกนนำในการจัดมหกรรม ร่วมกับกลุ่มรักษ์ตลาดริมน้ำและกลุ่มชุมชนชาวถนนคลองกระแชง เหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้มีองค์กรที่ร่วมจัดเพิ่มมากขึ้น ประกอบด้วย เทศบาลเมืองเพชรบุรี สถาบันวิจัยและส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี สถาบันอาศรมศิลป์ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กศน.เพชรบุรี กลุ่มศิลปินถ่ายภาพและศิลปินวาดภาพ ชาวชุมชนตำบลนาพันสามและวัดนาพรม เครือข่ายศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนครคีรี ชุมชนผึ้งน้อยมหัศจรรย์ บริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) บริษัทไปรษณีย์ไทย จังหวัดเพชรบุรี ธนาคารไทยพานิชย์ ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารออมสิน และจะมีเพื่อนภาคีพื้นที่นี้ดีจังจาก 6 จังหวัด มาร่วมจัดกิจกรรมด้วย โดยมีน้อง ๆ จากโรงเรียนบางจานวิทยา และโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี มาร่วมเป็นอาสาสมัครในงาน มีหน่วยปฐมพยาบาลจากโรงพยาบาลเมืองเพชรธนบุรี และจากศูนย์สุขภาพชุมชนเขตเมือง โรงพยาบาลพระจอมเกล้า มาคอยบริการหากเกิดการเจ็บป่วย ส่วนด้านการจราจรและความปลอดภัย ก็ได้รับความอนุเคราะห์จากสถานีตำรวจภูธรเมืองเพชรบุรีจัดกำลังเจ้าหน้าที่มาดูแล และมี อปพร. จากเทศบาลเมืองเพชรบุรีมาร่วมสนับสนุนด้วย นอกจากนี้ก็ยังมีเครือข่ายขององค์กรและชุมชนที่ร่วมจัดงานอีกหลายภาคส่วนที่ไม่สามารถจะกล่าวถึงได้หมด”
สำหรับกิจกรรมก็มีหลากหลาย ทั้งกิจกรรมเรียนรู้ที่เป็นการชวนกันลงมือทำและการแสดง มีการเปิดบ้านและการจัดกิจกรรมของคนในชุมชน ทั้งในซอยริมน้ำ ถนนคลองกระแชงและถนนดำเนินเกษม กิจกรรมทางน้ำที่ปีนี้ได้รับความเมตตาจากเจ้าอาวาสวัดนาพรม จัดเรือพายและคนในชุมชนมาร่วมสร้างสีสันให้กับมหกรรมในแม่น้ำเพชรบุรีอีกด้วย ส่วนกิจกรรมภาคกลางวันในปีนี้ก็มีเพิ่มมากขึ้น จะมีการจัดเสวนาถึงราชาเรื่องสั้น มนัส จรรยงค์ ที่จะมีนายกสามคมนักเขียนแห่งประเทศไทยพร้อมด้วยนักเขียนชื่อดังระดับประเทศมาร่วมเสวนาด้วย มีกิจกรรมเดินชุมชน กิจกรรมสอนทำอาหาร และกิจกรรมทางน้ำ ส่วนพิธีเปิดก็จะมีด้วยกัน 4 พื้นที่ ต่างเวลากัน เริ่มด้วย 13.00 น. พิธีเปิดกิจกรรมภาคกลางวัน โดยวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี ณ บ้านจรรยงค์ ถนนคลองกระแชง 17.00 น. เปิด ณ ลานตั้งสวัสดิรัตน์ โดยนายกเทศมนตรีเมืองเพชรบุรี ซอยริมน้ำ ใกล้สะพานจอมเกล้า 18.00 น. พิธีเปิดกิจกรรมพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีชีวิตและถนนสายกิจกรรม 3 ส. โดยนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี ณ บริเวณสี่แยกเพชรนคร 19.00 น. พิธีเปิดงานมหกรรม เพชรบุรี ดีจัง มาส่งต่อกัน โดยผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี ณ ท่าน้ำวัดพลับพลาชัย และท่าน้ำตลาดสดเพชรบุรี ก็อยากจะขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ และมาร่วมพิธีเปิดมหกรรมครั้งนี้พร้อม ๆ กัน”
ด้านสถานที่จัดมหกรรม ได้รับการชี้แจงจากนางสาวเนตรนภา รุ่มรวย เยาวชนกลุ่มรักษ์หนองปรง ที่รับหน้าที่หัวหน้าฝ่ายสถานที่กล่าวว่า “สำหรับพื้นที่จัดงานปีนี้ ก็ใช้พื้นที่เหมือนปีที่ผ่านมา คือ ถนนดำเนินเกษม ตั้งแต่สี่แยกไปรษณีย์ ถึงหน้า วัดมหาธาตุ ถนนหลังจวน ถนนคลองกระแชงตลอดสาย และในซอยริมน้ำซึ่งอยู่ฝั่งตลาดสด ลานรอบน้ำพุ ลานสุนทรภู่ ลานวิหารคันธารราฐ วัดพลับพลาชัย และที่พิเศษปีนี้ เราได้รับความเมตตาจากผู้ใหญ่ใจดี มอบพื้นที่ส่วนตัวให้ใช้เป็นลานกิจกรรม คือลานตั้งสวัสดิรัตน์ ในซอยริมน้ำ จากห้างทองไทยง่วนฮง และลานเดอะซันปันสุข บริเวณหน้าตึกชุมสายโทรศัพท์ จากเจ้าของห้างเดอะซัน และสำนักงานทรัพย์สินฯ ก็อนุญาตให้ใช้พื้นที่ในตลาดสดเพชรบุรี จัดกิจกรรมได้ด้วย นอกจากนี้ก็มีชาวชุมชนอีกหลายบ้าน ที่เปิดบ้านจัดกิจกรรมร่วมกันด้วย ก็ขอถือโอกาสขอบคุณผู้ใหญ่ใจดีทุกท่านไว้ ณ โอกาสนี้ด้วยค่ะ”
งานมหกรรมพื้นที่ชุมชนสร้างสรรค์เพื่อการเรียนรู้มีชีวิต เพชรบุรี ดีจัง มาส่งต่อกัน ได้รับการสนับสนุนจาก จังหวัดเพชรบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดเพชรบุรี เทศบาลเมืองเพชรบุรี สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดเพชรบุรี สโมสรพื้นที่นี้ ดีจัง สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน(สสย.) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นการเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ให้กับ เด็กและเยาวชน ตลอดจนครอบครัว และผู้สนใจทั่วไป ได้มาเรียนรู้ สื่อ ศิลปะ ของพื้นที่ชุมชนตามบริบทของพื้นที่หรือองค์กรที่มาร่วมจัดกิจกรรม สร้างสังคมการเรียนรู้ไร้พรมแดน ภายใต้แนวคิด “เล่น เรียนรู้ ริเริ่ม ร่วมทำ แบ่งปัน” โดยมีเยาวชนเครือข่ายเพชรบุรี ดีจัง เป็นแกนนำออกแบบพื้นที่และกิจกรรมโดยใช้หลักการ 3 ส. คือ สื่อสาร สร้างสรรค์ มีส่วนร่วม เพื่อให้เกิด สื่อดี พื้นที่ดี ภูมิดี นำสังคมไปสู่ ชุมชน วิถี ชีวิต สุขภาวะ จึงขอเชิญชวนทุกท่านมาร่วมงานมหกรรมในครั้งนี้ มาร่วมกัน เปลี่ยนประเทศไทยจากจุดเล็ก ๆ ด้วยจินตนาการอันยิ่งใหญ่ นี้พร้อม ๆ กัน
ขอขอบคุณพี่ ๆ สื่อมวลชนทุกท่านทุกสำนัก ที่ให้การสนับสนุนกิจกรรมของเครือข่ายเพชรบุรี ดีจัง ด้วยดี ตลอดมา
ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่ https://www.facebook.com/phetburideejung/?ref=ts&fref=ts
“ สื่อมีเยอะ และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยก็เข้ามาเยอะแยะ ทีวีที่มีช่องที่มีการ์ตูนทั้งวัน ถ้าพ่อแม่ปล่อยให้เด็กอยู่กับทีวี เด็กก็จะติด และสิ่งเหล่านี้แหละที่จะดึงจินตนาการของเด็กหายไป” พี่โก๋ หรือ จันทรกานทิยมภา กลุ่มหนอนไม้อดีตสมาชิกกลุ่มมะขามป้อมที่ทำงานด้านละครเพื่อการพัฒนา ได้ผันชีวิตตัวเองออกไปทำกิจกรรมอิสระเพื่อพัฒนาเด็ก มาดูกันว่าในนิทานมีอะไร ถ้านึกย้อนไปตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายายนิทานถือว่าเป็นความสุขของเด็ก เพราะเป็นสายใยสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกถ้ามาโรงเรียนก็จะเป็นครูกับลูกศิษย์ เราจะใช้ตัวนิทานสอนเด็ก พอเด็กได้ฟังสอนเรื่องอะไรเด็กก็จะเชื่อในนิทาน แต่ในนิทานมักมีความเชื่อหลายอย่าง นิทานพื้นบ้านที่นำมาสอนเด็กได้ “การที่พ่อแม่อ่านหนังสือให้เด็กฟังตั้งแต่เด็กเป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้เด็กรักในนิทาน พอตักอุ่นๆของพ่อแม่และ มีนิทานกับเสียงนุ่มๆ ของพ่อแม่ พอเด็กได้ฟังเด็กก็จะเป็นเพลินและหลับไปโดยมีมีนิทาน มีตักอุ่น เสียงนุ่มๆ ที่เป็นเหมือนยานอนหลับให้ลูกได้มีมีความสุขนั่นเอง” นิทานสอนได้หลายอย่าง สอนเรื่องภาษา ศิลปะ จินตนาการ และเด็กมักจะมีจินตนาการที่มากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่คิดไม่ถึงในจินตนาการของเด็ก ถ้าเราจะแยกจินตนาการ ก็เป็นจินตนาการแบบอิสระ และ จินตนาการแบบมิติสัมพันธ์ จินตนาการแบบอิสระก็คือ เด็กในวัยเล็กๆ1-2 ขวบ เด็กอาจจะยังไม่มีประสบการ์โดยตรง จินตนาการเด็กจะมีอิสระ จินตนการเรื่องอะไรก็ได้ที่เด็กได้ฟัง จินตนาการแบบมิติสัมพันธ์ เด็กโตมากหน่อย ที่ผ่านประสบการณ์และเอาประสบการณ์ที่เค้าพบเห็น พอเราเล่านิทานอะไรให้ฟัง เค้าก็จะร้อง อ๋อ และนึกเชื่อมโยงไปได้ เพราะฉะนั้น นิทานหนึ่งเรื่องสามารถสอนเด็กได้หลายอย่าง เลือกนิทานอย่างไรให้เหมาะกับเด็ก การเลือกนิทานเราจะต้องเลือกนิทานที่ไม่ยาวมาก ต้องสั้นๆ […]
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2560 คุณครู 8 กลุ่มสาระและงานแนะแนวของโรงเรียนบางจานวิทยา คณะนักศึกษาฝึกสอน จาก มรภ.เพชรบุรี และกลุ่มลูกหว้า นำทีมโดย ป๋อม ลูกหว้า Maneeya Emton ก๊อง ลูกหว้า Artit Kong Mocha ร่วมกันเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ ยิ้มเบิกบาน@บางจานวิทยา ให้กับเด็ก ๆ นักเรียน ได้ เล่น และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันอย่างสนุกสนาน โดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียน เฉลิม จำปาวิจิตร ก็ได้ร่วมกิจกรรมนิทานหรรษากับเด็ก ๆ อย่างเป็นกันเอง พื้นที่ดี ๆ แบบนี้ เกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากเราร่วมมือกัน รายงานข่าวจาก กลุ่มลูกหว้า
มูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็กเชิญชวนทุกท่านที่สนใจเรื่องเล่นของเด็กๆ ไม่จำกัดเพศ อายุ “มาร่วมแลกเปลี่ยน” กับงานสัมมนานานาชาติ “สิทธิการเล่นของเด็กในภาวะวิกฤติ” International Seminar on Access to Play in Crisis วันพฤหัสบดีที่ 13 กรกฎาคม 2560 ณ ห้องสมรรถนานา โรงแรมนูโวซิตี้ สามเสนซอย 2 เขตพระนคร กรุงเทพฯขอเพียงคุณเห็นว่าเรื่องเล่น ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ แต่เป็นเรื่องสำคัญสำหรับเด็กๆทุกคนบนโลก ในงานสัมมนาคุณจะได้ความรู้จาก “งานวิจัยการเล่นของเด็กในสภาวะวิกฤติ”?? โดย นักวิจัยจาก 6 ประเทศ ??️ ??️️ ??️ ?? ??️ ??️ (ญี่ปุ่น,เนปาล,อินเดีย,ไทย,เลบานอน,ตุรกรี,) และสาระความรู้เรื่องการเล่นอีกมากมาย *****มีล่ามแปลภาษา อังกฤษ-ไทย ตลอดทั้งงาน***** สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมได้ที่ : คุณสุนีย์ สารมิตร 02- 433-6292 กด 0
20 ก.ย. สถาบันสื่อเด็กและเยาวชนร่วมออกบูธงาน “สานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก”ณ ฮอลล์ 9 อิมแพคฟอรั่ม เมืองทองธานี จ.นนทบุรี โดยมีพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด งานนี้จัดขึ้นเพื่อประกาศการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากอย่างเป็นทางการ ซึ่งเป็นการรวมพลังระหว่างภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และภาครัฐในการทำงานพัฒนาอย่างยั่งยืน จะเป็นกลไกสำคัญในการสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมในการกระตุ้น เศรษฐกิจฐานราก และสร้างความเชื่อมั่นประเทศไทย โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้ให้นโยบายการประสานพลังประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก โดยสรุปความว่า วันนี้เป็นวันแห่งความสดใส ดีใจที่เห็นทุกคนมีรอยยิ้ม หน้าตามีความสุข วันนี้เรามาร่วมมือกันในการสร้างสรรค์ สร้างพลังเพื่อทำความดีให้ประเทศชาติ ไม่ใช่เพื่อตนเอง หรือข้าราชการ แต่ทำเพื่อประชาชนทุกคน ซึ่งไม่ใช่เป็นการทำประชานิยม เพราะประชานิยมเป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความนิยมต่อภาครัฐ โดยรัฐบาลนี้เป็นความร่วมมือของรัฐบาลกับประชาชนในการแก้ไขปัญหา ภายในงาน สถาบันสื่อเด็กและเยาวชนพาภาคีเครือข่ายร่วมออกงานด้วย อาทิ กลุ่มเพชรบุรี…ดีจัง นำพวงมโหตร มาจัดกิจกรรมให้คนภายในงานร่วมตัดและนำกลับไปเป็นที่ระลึก เป็นอีกสื่อดี ที่ทางสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน และภาคีเครือข่าย เปิดเมือง 3 ดีวิถีสุข นั่นคือ สื่อดี พื้นที่ดี และภูมิดี ส่งผ่านแนวคิดให้กับผู้เข้าร่วมงาน ขอบคุณภาพประกอบจาก กลุ่มลูกหว้า