“ยงยุทธ” ยกพื้นที่รองเมือง ต้นแบบโมเดล “เมือง 3 ดี” ดึงเยาวชนหลุดจากปัจจัยเสี่ยงในชุมชน ประกาศสานฝันเด็กไทย ผลักดันสู่นโยบายระดับชาติ “สสส.” ปักหมุดขยายพื้นที่สร้างสรรค์เพื่อเด็กทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 3 เมษายน ณ บริเวณย่านถนนรองเมือง (ข้างกำแพงสถานีรถไฟหัวลำโพง) สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ร่วมกับภาคีเครือข่ายรองเมืองเรืองยิ้ม อาทิ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สถานีตำรวจนครบาลปทุมวัน ไปรษณีย์ไทย จัดงาน “รองเมือง…เรืองยิ้ม” ตอน ปทุมวัน…ปันยิ้ม โดยมี ศ.ดร.ยงยุทธ ยุทธวงศ์ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายสังคม เป็นประธานเปิดงาน พร้อมรับข้อเรียกร้องจากเด็ก เยาวชน ที่ต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนให้เกิดต้นแบบพื้นที่สร้างสรรค์ เมือง 3 ดี คือ สื่อดี พื้นที่ดี และภูมิดี เพื่อเป็นกลไกให้เยาวชนได้มีพื้นที่เชิงบวก ในการสร้างสรรค์กิจกรรม เรียนรู้ทักษะชีวิตและพัฒนาจิตสำนึกพลเมือง
ศ.ดร.ยงยุทธ กล่าวว่า เด็ก เยาวชนเป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่รัฐบาลต้องการสนับสนุนให้มีสุขภาวะที่ดี มีการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพที่เหมาะสม เพื่อให้เติบโตเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบต่อสังคม ยุทธศาสตร์เมือง 3 ดี ที่ สสส. และภาคีเครือข่าย ได้ดำเนินการอยู่นับเป็นกระบวนการที่มีประสิทธิภาพ โดยให้เด็กเป็นผู้สร้างสรรค์สื่อและเรียนรู้จากชุมชน ขณะเดียวกันก็ดึงภูมิปัญญาและศักยภาพของชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งนอกจากเด็กได้เรียนรู้การเป็นพลเมืองที่รับผิดชอบแล้ว ยังสร้างความสัมพันธ์ของครอบครัวและชุมชน และเป็นโอกาสให้หน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน ภาคประชาสังคม มาร่วมมือกันในการฟื้นฟูสิ่งดีๆ ในชุมชนให้กลับคืนมา จากการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะในพื้นที่รองเมืองแห่งนี้ ก็เป็นที่ประจักษ์ว่ายุทธศาสตร์เมือง 3 ดี ช่วยทำให้ลดปัจจัยเสี่ยงและปัญหาภายในชุมชน ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาชุมชนในหลายมิติ ตนเชื่อว่าหากมีการทำงานร่วมกันลักษณะนี้ทุกชุมชน ทุกจังหวัด จะช่วยสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนทางสังคมอย่างดียิ่ง ในนามรัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้เกิดความครอบคลุมในระดับท้องถิ่น และขยายไปสู่นโยบายระดับชาติต่อไป
ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการกองทุน สสส. กล่าวว่า เมือง 3 ดี คือ ยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่หรือชุมชนใน 3 ด้าน ได้แก่ 1. สื่อดี มีสื่อทั้งกระแสหลัก/สื่อท้องถิ่นที่ปลอดภัยและสร้างสรรค์สำหรับทุกคน 2. พื้นที่ดี ทุกคนในชุมชนมีส่วนร่วมออกแบบและใช้ประโยชน์ สร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และ 3. ภูมิดี มีทักษะคิดวิเคราะห์อย่างมีวิจารณญาณ เป็นภูมิคุ้มกันให้กับตนเอง ครอบครัวและชุมชน ปีที่ผ่านมา สสส.ได้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์เมือง 3 ดี ทำให้เกิดพื้นที่สร้างสรรค์ 24 โครงการ รวม 107 พื้นที่ ใน 38 จังหวัด อาทิ จ.เพชรบุรี นครราชสีมา อุตรดิตถ์ เชียงใหม่ มีเยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมมากกว่า 5,000 คน ครอบครัวเข้าร่วมกว่า 20,000 คน เกิดแกนนำเด็กเยาวชนที่มีบทบาทเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้นในชุมชน และดึงดูดให้ผู้ใหญ่เข้ามามีบทบาทพัฒนาพื้นที่ แก้ปัญหาอบายมุขและลดพื้นที่เสี่ยงสำหรับเด็ก ในบางพื้นที่ที่มีความขัดแย้งทางความคิด ความเชื่อ พลังของเด็กยังช่วยเปิดพื้นที่สร้างสรรค์เชิงบวกลดความขัดแย้งลงอย่างได้ผล นอกจากนั้นยังส่งผลไปถึงการปรับปรุงพื้นที่เสื่อมโทรมให้เป็นพื้นที่สร้างสรรค์สำหรับเด็กและครอบครัว เช่น ชุมชนสะพานปลา จ.สมุทรปราการ พัฒนา จากพื้นที่ทิ้งขยะเป็นพื้นที่สร้างสรรค์ของชุมชน โดยการดำเนินงานในระยะต่อไปของ สสส. จะร่วมกับภาคีเครือข่ายฯ ทำงานเชิงรุกเชื่อมกับทุกภาคส่วน เพื่อขยายพื้นที่สร้างสรรค์เมือง 3 ดี ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ
“สำหรับชุมชนวัดดวงแข และชุมชนโดยรอบพื้นที่รองเมืองแห่งนี้ มีการปรับสภาพแวดล้อมบ้านเรือนและชุมชน ผ่านงานศิลปะและกระบวนการมีส่วนร่วม เริ่มจากแกนนำเด็กที่เข้ามามีส่วนร่วม พัฒนาสื่อที่เหมาะสม ทำให้เกิดความภาคภูมิใจในการทำงานเพื่อชุมชน เกิดเป็นกลุ่มอาสาสมัคร ครบครัวอาสาสมัคร เยาวชนอาสา อาสาสมัครจากธนาคารจิตอาสา อาสาสมัครจากภาคธุรกิจ ประชาสังคม กว่า 700 คน” ทพ.กฤษดา กล่าว
รศ.ดร.โคทม อารียา ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก กล่าวว่า มูลนิธิฯ นำแนวคิดเมือง3ดีวิถีสุข มาทำงานร่วมกับ 4 ชุมชนในย่านนี้ คือ ชุมชนวัดดวงแข ซึ่งเป็นตัวอย่างให้เพื่อนชุมชนข้างเคียงประกอบด้วย ชุมชนจรัสเมือง ตรอกสลักหิน และแฟลตรถไฟ พร้อมกับสร้างการรับรู้และการมีส่วนร่วมของทุกชุมชนในเขตปทุมวันรวม 17 ชุมชน การทำงานเน้นกระบวนการสื่อสร้างสรรค์เพื่อสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในพื้นที่ถนนรองเมือง ตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2556 มีการดำเนินการ อาทิ เชิญชวนครอบครัวเข้าร่วมกิจกรรม “เมนูเรืองยิ้ม” ให้เด็กได้รับความรู้เรื่องโภชนาการ การรับประทานอาหารเช้า และอาหารที่มีประโยชน์ กิจกรรม “ร้านเรืองยิ้ม” เกิดจากที่เด็กๆ ได้ลงพื้นที่สำรวจร้านอาหารอร่อย สะอาด ราคาเหมาะสม มาคัดเลือกพร้อมมอบใบประกาศและจัดทำเป็นแผ่นพับเผยแพร่ จัดประกวด “บ้านเรืองยิ้ม” ส่งเสริมสุขอนามัยบ้านและชุมชนที่สะอาดและปลอดภัย ซึ่งช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และต่อยอดเป็น “ชุมชนเรืองยิ้ม” ที่มีการพัฒนาพื้นที่ในชุมชนให้สะอาด สวยงาม แต่งแต้มสีสันบนกำแพงตลอดทางเดินในชุมชน จากนั้นมีการพัฒนาพื้นที่รอบๆ ชุมชน คือ “กำแพงหัวลำโพงเรืองยิ้ม” ที่มีแต่ขยะ กลิ่นเหม็น น่ากลัวในเวลากลางคืน มาเป็นกำแพงที่สวยงาม สดใส เป็นพื้นที่เรียนรู้ทางด้านวัฒนธรรม วิถีชีวิต ให้กับเด็ก เยาวชน และชาวชุมชนในขณะนี้
20 สิงหาคม 2559 นี้พบกันครับ ณ สวนสาธารณะเขาแคน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ……………………………….. 1. สนุกมือทำ กับ ฐานกิจกรรมมากมายที่ขนมาเพื่อทุกคน ให้ทุกท่านได้ลงมือทำ อาหาร ศิลปะ ประดิษฐ์ ระบายสี ทำเอง ภูมิใจได้ของ กลับบ้าน 2. สนุกชม ดนตรีมากความสามารถจากกลุ่มวัยรุ่นที่รวมกลุ่มรวมตัวกัน มากมายในห้องซ้อมดนตรี อ.ปากช่อง พร้อมความสนุครบวัย เพราะเรามี ลิเก ศิลปะร่วมสมัย เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ชมดี 3 สนุกช๊อบ ในตลาดนัดคุณหนู ที่จะชวนน้องๆค้นของเก่า เอามาขาย เรียนรู้การหา และการออม (ครอบครัวใดสนใจ เปิดแผงให้น้องๆได้เรียนรู้ ติดต่อจองพื้นที่ด่วนๆ รับจำนวนจำกัด 081-7321412) และพี่เศษสุดๆ กับการขนหนังสือมือสองมาจำน่ายในราคาเล่มล่ะ 1 บาท จากมูลนิธิกระจกเงา ………………………… ปล. งานเดิ่นนี้ดีจัง เปิดพื้นที่ให้ทุกท่าน มาร่วมสร้างสรรค์ กิจกรรมดีๆให้เด็ก […]
กลุ่ม Music Sharing, เครือข่ายศิลปิน ร่วมกับกลุ่มรักษ์สะเมิง รวมพลจัดงาน “The Street Seed Sharing” วันที่ 1-3 กค. 59 ณ ลาน The street รัชดา เพื่อช่วยฟื้นฟูป่าที่สะเมิง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันทั้งชาวบ้าน กรมป่าไม้ ภาคธุรกิจ เพื่อฟื้นฟูป่าอย่างมีส่วนร่วม …ศิลปินที่มาร่วมงาน อาทิเช่น อะตอม ชนกันต์,เอ๊ะ จิรากร,รัสมี อีสานโซล,Asia seven , Monomania,Mattnimare sunny parade, O-pavee,Alyn ,ส้ม มารี ,Rhythms antique ,ปลิ๊กกี้ ผิงหยาง อ๊ะอาย the voice kidsปอ ภราดร feat. Music sharing
ผอ.เสถียร พันธ์งาม โรงเรียนเมืองคง (คงคาวิทยา) ได้เข้ามาร่วมงานกับมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก โดยมองว่า “เท่าที่ดูนักเรียนในโรงเรียน มีปัญหาในเรื่องความรับผิดชอบต่อหน้าที่ รู้สึกเหมือนการศึกษาที่ผ่านมาไม่มีทิศทางอะไรมากมาย ก็ทำไปจัดไปตามหน้าที่ จัดไปเรื่อยๆ จัดเป็นปีๆ จบเป็นปีๆ ไป แต่เป้าที่แท้จริงดูเหมือนมันไม่ชัด เลยคิดว่าถ้าเราจะจัดการศึกษาให้เกิดประโยชน์กับลูกหลานอย่างยั่งยืน น่าจะเอาเรื่องเป้าหมายของชาติที่เขาเขียนไว้ 8 ประการ ในหลักสูตรของผู้รักษาอันพึงประสงค์ 8 ประการที่ว่า เราต้องเอามาขมวดเข้าว่าแท้จริงแล้ว 8 ประการที่ว่า มันคืออะไรกันแน่ ก็เลยมาตกผลึกที่ว่ามันน่าจะเริ่มต้นที่ให้เด็กรู้จักหน้าที่ตนเองก่อน เลยตั้งเป้าว่าต้องสร้างเด็กให้มีความรับผิดชอบรู้หน้าที่ว่าตั้งแต่มาถึงโรงเรียนตั้งแต่เช้าจนเลิกเรียน เขาควรจะมีขั้นมีตอนก่อนว่ามาถึงโรงเรียนเขาทำอะไรบ้าง” โดยความรับผิดชอบจะต้องเป็นไปตามเด็กแต่ละช่วงแต่ละกลุ่มแต่ละคน เพราะเด็กโดยรวมแล้วจะไม่ค่อยรับผิดชอบต่อหน้าที่เท่าไรไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือโรงเรียนจะเป็นแค่ผู้คอยรับบริการต่างๆ ถ้าช่วยทำงานในส่วนรวมจะไม่ค่อยใสใจเท่าไร เลยคิดว่าถึงเวลาแล้วละถ้าจะรอภาพใหญ่ของประเทศมันคงจะไม่ได้แล้วต้องมาคิดแคบๆ ที่บริเวณโรงเรียนที่เราสามารถรับผิดชอบได้ สามารถกำหนดนโยบายกำหนดทิศทางได้ด้วยตัวเอง เลยคิดว่าน่าจะเริ่มต้นที่เราก่อนที่โรงเรียนของเราก่อน เริ่มต้นคิด… ทำกิจกรรมปรับกระบวนการในแต่ละวัน เพื่อที่จะลองดูว่าครูและนักเรียนจะมีปฏิกิริยายังไรบ้าง ซึ่งก็พบปัญหาอยู่ ครูส่วนใหญ่ ก็รู้สึกว่า มันยุ่งยาก “แรงต่อต้านมีค่อนข้างมากแต่เมื่อเรายืนยันและอธิบายสิ่งที่เราทำเพราะอะไร เพราะปัญหาที่เราเห็นพ้องด้วยกันว่าเด็กไม่มีระเบียบวินัย ไม่ค่อยมีความรับผิดชอบทำอะไรก็พอแล้วแล้วไป” จากความมุ่งมั่นที่จะทำ ผอ.เสถียรได้สร้างกลุ่มคุณครูที่เข้าใจแกนนำก็ดำเนินโดยทีมครูที่เข้าใจ ส่วนตัวนักเรียน คิดว่าความเคยชินที่อยู่ในระบบที่ค่อนข้างไม่ค่อยได้รับผิดชอบก็จะเปลี่ยนตัวเขายาก น่าจะเปลี่ยนได้อย่างเดียวคือครูประจำฉันต้องกำกับให้แคบเข้ามาที่ห้องเรียน ส่วนชุมชนผู้ปกครองไม่ค่อยมีปัญหาจะมีปัญหาเรื่องการสื่อสารของครูไปถึงผู้ปกครอง ครูที่ยังไม่ค่อยเห็นด้วยเขารู้สึกว่าเขามีภาระมากขึ้น แต่ผอ.ก็ยืนยันในสิ่งที่ทำ […]
เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2560 คุณครู 8 กลุ่มสาระและงานแนะแนวของโรงเรียนบางจานวิทยา คณะนักศึกษาฝึกสอน จาก มรภ.เพชรบุรี และกลุ่มลูกหว้า นำทีมโดย ป๋อม ลูกหว้า Maneeya Emton ก๊อง ลูกหว้า Artit Kong Mocha ร่วมกันเปิดพื้นที่สร้างสรรค์ ยิ้มเบิกบาน@บางจานวิทยา ให้กับเด็ก ๆ นักเรียน ได้ เล่น และเรียนรู้ไปพร้อม ๆ กันอย่างสนุกสนาน โดยท่านผู้อำนวยการโรงเรียน เฉลิม จำปาวิจิตร ก็ได้ร่วมกิจกรรมนิทานหรรษากับเด็ก ๆ อย่างเป็นกันเอง พื้นที่ดี ๆ แบบนี้ เกิดขึ้นได้ไม่ยาก หากเราร่วมมือกัน รายงานข่าวจาก กลุ่มลูกหว้า