“…เขาก็แสวงหาเพื่อน เราเองก็ต้องการเพื่อน มันจึงลงตัวพอดี พอเขาเห็นกิจกรรมที่เราทำ เขาก็อยากทำงานกับเรา ถ้าใครจะทำงานกับพี่นัดมาเลย ไม่ต้องคอยหลายวัน นัดแล้วลงมือทำงานร่วมกันเลย”
เตือนใจ สิทธิบุรี หรือ หลายๆคนเรียกเธอว่า “ป้าป้อม” อดีตนักกิจกรรมมหาวิทยาลัยวิทยาลัยรามคำแหง สั่งสมประสบการณ์การทำงานพัฒนาและงานค่ายกิจกรรมเห็นต้นทุนทางสังคมของบ้านเกิดจึงมุ่งมั่นสร้างการเรียนรู้ ฟื้นฟูวัฒนธรรม และเชื่อมโยงคนในชุมชน ทั้ง 3 วัยมาเป็นครอบครัวเดียวกัน
เริ่มทำงานครั้งแรก ในปี 2530 กับกลุ่มสื่อเพื่อการพัฒนา (AMED) ทำงานกับชาวบ้านในชุมชนแออัด ได้ฝึกกระบวนการคิด และกระบวนการทำงานอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เป็นระบบ จนถึงปี 2536 เปลี่ยนมาทำงานที่มูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภ์ มีโอกาสเดินทางไปการทำงานในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย ทำให้เพิ่มพูนทักษะ เทคนิคการทำงานพัฒนา การประสานงานในพื้นที่ และมีเครือข่ายการทำงานมากขึ้น ก่อนกลับมาเป็นบัณฑิตอาสา กับ กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (กรมประชาสงเคราะห์เดิม) และร่วมมือกับเครือข่ายเกษตรทางเลือกภาคใต้ ในการทำงานพัฒนาที่บ้านเกิด ในตำบลนาโหนด จังหวัดพัทลุง ทำให้เห็นทุนทางสังคม และศักยภาพของพื้นที่ในด้านเกษตร เกิดตกผลึกทางความคิด จึงตัดสินใจตั้งหลักปักฐานสร้างครอบครัว ที่บ้านเกิดของตนเอง ด้วยการยึดอาชีพเกษตร ทำสวนยาง ทำนา ทำสวนเป็นหลัก ควบคู่การทำงานพัฒนาในชุมชนท้องถิ่น
เกิดก่อสวนยางยิ้ม
ต้นทุนชีวิตของ “ป้าป้อม” ที่สั่งสมมาก่อนจะเปิดใต้ถุนบ้านเป็นแหล่งเรียนรู้นั้นก็ทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเรื่องน้ำ ความมั่นคง ผู้หญิง ผักพื้นบ้าน เรื่องอาหาร ตั้งแต่ปี 2548
“เราเหนื่อยเราก็หยุด พอเราหายเหนื่อยเราก็ลุกขึ้นมาทำใหม่ ตอนนั้นก็ไปใช้ใต้ถุนอนามัย ใช้ลานวัดทำกิจกรรม แต่งานจัดการมันเยอะ ก็เลยปรับมาทำที่บ้านเพราะพื้นที่กว้าง ใช้ใต้ถุนบ้านนี่ละ เป็นลานเล่นให้กับเด็กๆ ที่ทำกิจกรรม แล้วก็เริ่มมาจับเรื่องเด็กเป็นหลัก”
หลังช่วงการปันผลประจำปีของกลุ่มออมทรัพย์ที่ป้าป้อมร่วมดำเนินงานอยู่นั้น ได้แลกเปลี่ยนและตกลงร่วมกันว่า จะนำเงินปันผล ที่ปกติจะแบ่งให้แก่สมาชิกเป็นจำนวนเงินเท่าๆกันนั้น ไปสร้างกิจกรรมการจัดค่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่แทน เพื่อสร้างการเรียนรู้ และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างคน 3 วัย 3 ศาสนา ในชุมชน จึงกลายเป็น สวนเรียนรู้ชุมชนบ้านเกาะทัง
และได้ร่วมแนวคิดการทำพื้นที่สร้างสรรค์ โดยได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากสำนักงานกองทุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาชน(สสย.) โดยโครงการรณรงค์พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน “พื้นที่นี้…ดีจัง”จึงร่วมเป็นภาคีเครือข่ายพื้นที่นี้…ดีจัง จนปัจจุบัน 4 ปีแล้ว
ทุกวันนี้บริเวณใต้ถุนบ้านของป้าป้อม เป็นแหล่งเรียนรู้ เป็นห้องสมุดของชุมชนที่มีชีวิต เป็นแหล่งเรียนรู้ และทำกิจกรรมยามว่างของเด็กเยาวชน และคนในชุมชน การดำเนินกิจกรรมต่างๆ ในชุมชน ทั้ง โครงการปิดเทอม เปิดตา เปิดใจ กับกาลละเล่นพื้นฐานลานสร้างสุข โครงการปิดเทอม เปิดตา เปิดใจ กับขนมพื้นบ้านอาหารท้องถิ่น โครงการศาสนาสัมพันธ์กับการสร้างสุขในชุมชน โครงการมโนราห์เรียนร้องร้อยรำ สื่อสร้างสุข ฯลฯ โดยเน้นการสร้างการมีส่วนร่วมของคนในชุมชน เชื่อมโยงคน 3 วัย ทั้งเด็กเยาวชน ผู้ใหญ่ ผู้สูงอายุ มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างสัมพันธ์อันดีระหว่างกัน เพื่อสร้างความรัก ความอบอุ่นในชุมชน เพื่อเป็นเกราะป้องกันปัญหาสังคมต่างๆ ที่เกิดขึ้น และค่อยๆ กลายเป็น “สวนยางยิ้ม” ในที่สุด
แต่งแต้มต่อเติม
หลังจากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของภาคีพื้นที่สร้างสรรค์ หรือที่เรียกกันว่า “พื้นที่นี้…ดีจัง” ป้าป้อม ก็ทำกิจกรรมกับโรงเรียน วัด อนามัย หลังจากนั้นก็ขยายแนวคิดการสร้างพื้นที่สร้างสรรค์สู่หมู่บ้าน อำเภอ และจังหวัดใกล้เคียง
จากแนวคิดที่จะขยายงานนี้เอง จึงเกิดงานระดับจังหวัด “พัทลุงยิ้ม” เมื่อวันที่ 24 ส.ค. 56
“ตอนแรกที่จะทำในเมือง ก็กังวลบ้างเพราะใช้พลังเยอะและมีเงื่อนไขไม่น้อยทีเดียว แต่ก็อุ่นใจเพราะเรามีเครือข่ายพื้นที่นี้ ดีจัง ในตำบลต่างๆ ที่เราไปร่วมทำกิจกรรมไว้แล้ว พอเริ่มลงมือทำก็มีการขยายกลุ่ม ทั้งคนร่วมจัด คนที่มาร่วมเรียนรู้ มีทั้งโรงเรียน ชุมชน ที่สำคัญก็คือคนขาดพื้นที่แบบนี้ ไม่เคยมีกิจกรรมให้เด็กๆและครอบครัวได้ทำร่วมกัน พอเข้ามาร่วมกิจกรรมกับเราแล้วคำตอบคือมันใช่สิ่งที่เขาค้นหาอยู่
การจัดงานครั้งนี้ได้มากกว่าเป้าหมายที่เราตั้งไว้มาก มากกว่าที่เราคิดไว้อีก เป้าหมายงานในครั้งนี้ที่ตั้งไว้เดิมแค่ชวนเพื่อนเครือข่ายยิ้มในพัทลุงที่เราเคยยิ้มสัญจรไปด้วยกัน มาพบ มารวมกัน มาแลกเปลี่ยน กัน โดยจะชวนกลุ่มเรียนรู้ในพื้นที่ยิ้มสัญจรมาเรียนรู้ร่วมกันเท่านั้น แต่เมือถึงเวลาที่จะจัดงานจริงๆ ทางทีมงานมาคุยกันเพื่อเตรียมงาน เราชวนเพื่อนกลุ่มใหม่มาด้วย เกิดการเพื่อนชวนเพื่อน ทำให้ในงานมีความหลากหลายทั้งบนเวทีและในลานเล่น ลานแบ่งปัน”
ภาคีร่วมจัดงานครั้งนี้มีทั้งศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนเมือง ศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนตำบล สถาบันครอบครัวเข้มแข็งพัทลุง และทีมงานชุมทางเขียนด้วยแสง และเพื่อนเครือข่ายชุมชน ภายในงานมีการแสดงและการละเล่นต่างๆ เช่น ลิเกฮูลู จ.พัทลุง ละครใบ้ จากกลุ่มมาหยา จ.กระบี่ Orchestra โรงเรียนสตรีพัทลุง ละครสร้างสรรค์ จากกลุ่มข้าวยำละครเร่ จ.ปัตตานี – หุ่นเงา กลุ่มลูกขุนน้ำ จ.นครศรีธรรมราช – วงดนตรี วงโฮป แฟมิลี่
ซุ้มกิจกรรมตามรอยขนมพื้นบ้าน อาหารท้องถิ่น จ.พัทลุง ถุงผ้าเก็บรัก เข็มกลัดชิ้นเดียวในโลก ผ้ามัดย้อมเก็บสุข เพ้นท์สีก้อนหิน – ผ้าบาติก กังหัน ความรู้ ว่าวไทย ทิชชู่มหัศจรรย์ ศิลปะชูใจ ตุ๊กตาปูนพาสเตอร์ ชวนน้องกินผัก โปสการ์ดเดินทางของกลุ่มศิลปินเขียนด้วยแสง ร้อยลูกปัดหลากสี โมบายเดินเผา ส่งเสริมการอ่าน การเล่านิทานพื้นเมือง นิทานทุ่งซ่า – ของเล่นเดินทาง- นวดแลกเล่า – นิทานมีชีวิต ฯลฯ
“เราได้คุยกับเพื่อนใหม่ สิ่งที่เราได้รับกลับมามันเป็นบวกทำให้คนทำงานได้คิด ได้วางแผนต่อว่าจะทำอะไรต่อ แล้วในงานนี้ทำให้เราได้เพื่อนใหม่ทั้งนักพัฒนารุ่นใหม่ เครือข่ายศิลปินที่ถึงเวลาที่เราจะต้องคุยกัน จะร่วมกันทำเรื่องดีๆ เหล่านี้ต่อได้อย่างไร เขาก็แสวงหาเพื่อน เราเองก็ต้องการเพื่อน มันจึงลงตัวพอดี พอเขาเห็นกิจกรรมที่เราทำ เขาก็อยากทำงานกับเรา ถ้าใครจะทำงานกับพี่นัดมาเลย ไม่ต้องคอยหลายวัน นัดแล้วลงมือทำงานร่วมกันเลย”
งานนี้อาจจะเรียกได้ว่าได้เปิดเวทีให้คนที่มีหัวใจ มีแนวคิดคล้ายกันได้มาพบกันและถึงเวลาที่ทุกกลุ่มจะมาคุยกันเพื่อก้าวต่อไปอย่างไร จะมีพื้นที่สร้างสรรค์ในพื้นที่ไหนอีกบ้าง ต้องติดตาม
อ้างอิง “พื้นที่สร้างสรรค์”
แผนงานสื่อสร้างสุขภาวะเยาวชน (สสย.) และมูลนิธิเพื่อการพัฒนาเด็ก (มพด.) ให้ความหมาย “พื้นที่สร้างสรรค์ว่า” เป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์ สร้างโอกาสให้เด็กได้เติบโตพัฒนาตามวัย มุ่งตอบสนองความต้องการของเด็ก ครอบครัว ชุมชน
โครงการรณรงค์พื้นที่สร้างสรรค์เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน “พื้นที่นี้…ดีจัง” ได้นิยามพื้นที่สร้างสรรค์จากการประชุมระดมสมองของภาคีเครือข่ายร่วมกันว่า “เล่น เรียนรู้ ริเริ่ม ร่วมทำ แบ่งปัน”
พื้นที่ทางกายภาพ นั่นคือพื้นที่สำหรับเล่นและทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งบ้าน โรงเรียน และชุมชน ต้องเป็นพื้นที่ปลอดภัย เด็กๆ ทำกิจกรรมได้ตามวัยอย่างอิสระและสร้างสรรค์
พื้นที่ทางความคิด นั่นคือเปิดเวทีให้เด็กและเยาวชนได้แสดงออก แสดงความสามารถ มีสวนในการตัดสินใจ จัดกระบวนการ จัดกิจกรรมของตนเอง สอดคล้องกับความต้องการของเด็ก ส่งเสริมให้ค้นพบศักยภาพและคุณค่าของตนเอง
พื้นที่ทางสื่อ นั่นคือสื่อนับเป็นบริบททางสังคมที่เป็นสาธารณะ ทุกคนสามารถรับและเข้าถึงได้ สื่อสาธารณะทุกประเภทจึงควรมีหน้าที่แบ่งปันพื้นที่ให้กับเด็กอย่างพอเพียง
พื้นที่ทางสังคม นั่นคือเปิดโอกาสให้เด็กมีสิทธิ มีส่วนร่วมในการแบ่งปัน จัดสรรทรัพยากรในสังคม มีส่วนกำหนดทิศทางในการบริการหรือสวัสดิการสำหรับเด็ก
สัมภาษณ์ – สุมาลี พะสิม เจ้าหน้าที่จัดการความรู้และสื่อสารสาธารณะ สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน
ภาพประกอบ – หนุมานชาญสมร ชวิน ถวัลย์ภิยโย, Lookkhunnam Kiriwong
วันที่ 16-17 ธันวาคม 59 เชิญชวนเด็กๆ เยาวชนและบุคคลทั่วไป ร่วมกิจกรรม “ตามรอยแว้งในความทรงจำ ครั้งที่ 3 ” ปีนี้เราจะชวนน้องๆทุกคนเดินเยี่ยมชมตลาดอำเภอแว้ง เรียนรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ ตามติดร่องรอยที่ยังมีให้เห็น เดินชมตึกรามบ้านช่องที่ยังคงสภาพเดิม สนทนาพาเพลินกับคนเฒ่าคนแก่ที่จะส่งกลิ่นไออบอวลแห่งความสุขในวัยเยาว์ ชมนิทรรศการภาพถ่ายของแว้งวันวาน มีหลายภาพที่ยังไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน พร้อมฟังการบรรยายจากเจ้าของภาพที่จะมาบอกเล่าถึงฉากข้างหลังภาพ และพบกับกิจกรรมสร้างสรรค์สำหรับเด็กๆ และเยาวชนอีกมากมาย ณ ลานหญ้าศาลามหาราช อ.แว้ง จ.นราธิวาส “พื้นที่นี้ดีจัง แว้ง…ยังยิ้ม อิ่มใจทุกวัยไปอีกนานแสนนาน” ติดตามความเคลื่อนไหวที่ Sum Nara Nara
มหกรรมดีจังอีสานตุ้มโฮม ปี 4 สื่อสารสร้างสรรค์: เรื่องกินเรื่องใหญ่ ที่ตลาดไนต์บาซาร์มหาสารคามสุดคึกคัก ประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 60 ที่ตลาดไนต์บาซาร์มหาสารคาม อำเภอเมือง จังหวัดมหาสารคาม นายเสน่ห์ นนทะโชติ ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เป็นประธานเปิดงาน งานมหกรรมดีจังอีสานตุ้มโฮม ปี 4 โดยมีผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุจิน บุตรดีสุวรรณ คณบดีคณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นายสิทธิเดช ผงสิริ แกนนำเยาวชนอีสานตุ้มโฮม นิสิตนิเทศศาสตร์ คณะวิทยาการสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม และเครือข่ายเยาวชนอีสานตุ้มโฮมจากพื้นที่จังหวัดมหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ ยโสธร อุดรธานี สุรินทร์ และศรีสะเกษ ร่วมกันจัดกิจกรรม “มหกรรมดีจังอีสานตุ้มโฮม ปี 4 สื่อสารสร้างสรรค์: เรื่องกินเรื่องใหญ่” ด้วยตระหนักถึงคุณค่าของวิถีภูมิปัญญาอีสาน และได้นำเสนอผ่านวิถีอาหารพื้นบ้าน ศิลปะสร้างสรรค์ และสื่อพื้นบ้าน ซึ่งเป็นผลงานความสามารถของเด็กและเยาวชนที่ได้ร่วมกันจัดขึ้น “มหกรรมดีจังอีสานตุ้มโฮม ปี 4 สื่อสารสร้างสรรค์: […]
18 มิ.ย. 59 การสัมมนาเชิงปฏิบัติการ บทบาทพี่เลี้ยง สหพันธ์พัฒนาองค์กรชุมชนคนจนเมืองแห่งชาติ(สอช.) ในการทำงานพัฒนาเด็กด้วยกระบวนการ 3ดี มีผู้เข้าร่วมเกือบ 100 คนจาก 21เมือง ส่งผ่านความรู้โดยสถาบันสื่อเด็กและเยาวชน
สถาบันสื่อเด็กและเยาวชน จัดสัมมนาทบทวนบทเรียนการทำงานพื้นที่สร้างสรรค์ “พบปะเพื่อนภาคี 3ดี 4ด้าน ผสานพลังยิ้ม” ที่ ร.ร.บางกอกเซนเตอร์ ห้องอัญมณี วันที่ 25 – 26 ก.พ. โดยมีภาคีเครือข่ายในยุทธศาสตร์พื้นที่สุขภาวะ 3 ดีต้นแบบ เมืองสื่อสร้างสรรค์ และ พื้นที่นี้..ดีจัง รุ่น 1-2 รวมทั้งสิ้น 35 โครงการ จำนวน 150 คน เข้าร่วมทบทวนบทเรียน อนึ่งการจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะทบทวนสรุปบทเรียนเสริมพลังการทำงานเชิงแนวคิดและเชิงปฎิบัติการพื้นที่สร้างสรรค์ 3 ดีแล้ว ยังแลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงานพื้นที่สร้างสรรค์ในแต่ละพื้นที่ แต่ละโครงการ และระดมสมองร่วมกันกำหนดทิศทางยุทธศาสตร์พื้นที่สุขภาวะร่วมกันต่อไป